บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: GLOW ENERGY PUBLIC COMPANY LIMITED ชื่อย่อ:GLOW) บริษัทและบริษัทย่อยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและเป็นผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคทางอุตสาหกรรมในภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทคือผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
บริษัทจดทะเบียนก่อตั้งในชื่อว่า “บมจ. เดอะ โคเจเนอเรชั่น” ในเดือนตุลาคม 2536 โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2539 บมจ. เดอะโคเจเนอเรชั่น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อมา บริษัท สุเอซ แทรกเตอเบล เอส.เอ. ได้ทำการซื้อหุ้นในบจ. โกลว์ ครั้งแรกในเดือนกันยายน 2540 และเข้าซื้อหุ้นของบมจ. โกลว์ พลังงานครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2543 โดยได้เพิกถอนหุ้นของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเวลาต่อมา ในเดือนธันวาคม 2547 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทได้ดำเนินการปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในกลุ่ม โดยบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นของบจ. โกลว์ ซึ่งส่งผลให้บจ. โกลว์ ไอพีพี, บจ. โกลว์ เอสพีพี 1 และบจ. โกลว์ เดมิน วอเตอร์ เข้ามารวมอยู่ภายใต้บริษัท ในปี พ.ศ. 2548 บมจ. โกลว์ พลังงานเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเริ่มซื้อขายหุ้นในวันที่ 21 เมษายน 2548 และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "GLOW"
ในปี 2550 บริษัทได้จัดตั้งบจ. โกลว์ ไอพีพี 2 โฮลดิ้ง บจ. โกลว์ ไอพีพี 3 และบจ. เก็คโค่-วัน โดยบจ. โกลว์ ไอพีพี 2 และบจ. โกลว์ ไอพีพี 3 เป็นบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) ในขณะที่บจ. เก็คโค่-วัน เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจ (Operating Company) ธุรกิจหลักของบริษัทเหล่านี้คือพัฒนาและดำเนินการในโครงการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทย ในเดือนกันยายน 2551 บจ. เก็คโค่-วัน ได้ลงนามในสัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้าระยะยาวกับกฟผ. และเริ่มการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 660 เมกะวัตต์ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทโกลว์ถือหุ้นร้อยละ 65 และบมจ. เหมราช พัฒนาที่ดินถือหุ้นร้อยละ 35 ในบจ. เก็คโค่-วัน
ในเดือนพฤษภาคม 2552 บจ. โกลว์ ได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 49 ในบจ. ห้วยเหาะ ไทย (หรือ “ห้วยเหาะ ไทย”) และร้อยละ 55 ในบจ. ไฟฟ้า ห้วยเหาะ (หรือ “ไฟฟ้า ห้วยเหาะ”) จากจีดีเอฟ สุเอซ โดยห้วยเหาะ ไทยเป็นบริษัทโฮลดิ้งซึ่งถือหุ้นในไฟฟ้า ห้วยเหาะ ร้อยละ 25 ดังนั้น จึงส่งผลให้บริษัทถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในไฟฟ้า ห้วยเหาะ รวมร้อยละ 67.25 ปัจจุบัน ไฟฟ้า ห้วยเหาะ ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำ กำลังการผลิต 152 เมกะวัตต์ อยู่ในจังหวัดอัตตะปือ สปป.ลาว
ในเดือนกรกฎาคม 2554 บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 100 ในบจ. ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ จาก อินเตอร์เนชั่นแนล พาวเวอร์ พีแอลซี (หรือ “ไอพีอาร์”)ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในขณะนั้น ทั้งนี้ บจ. ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ ถือหุ้นร้อยละ 100 ใน บจ. ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ 2 และ บจ. ระยอง เนชั่นแนล พาวเวอร์ และในเดือนธันวาคม 2554 บจ. ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ บจ. ไทย เนชั่นแนล พาวเวอร์ 2 และบจ. ระยอง เนชั่นแนล พาวเวอร์ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บจ. โกลว์ เอสพีพี 11, บจ. โกลว์ เอสพีพี 12 และ บจ. โกลว์ เอสพีพี 13 ตามลำดับ สำหรับ โกลว์ เอสพีพี 11, โกลว์ เอสพีพี 12 และโกลว์ เอสพีพี13 นั้นเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงโดยผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่กฟผ. ภายใต้ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก และผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและน้ำเย็นให้ลูกค้าอุตสาหกรรมในเขตประกอบการอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
บริษัทและบริษัทย่อยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคทางอุตสาหกรรมในภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยประกอบธุรกิจในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและไอน้ำ (Cogeneration) โดยโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ดำเนินการในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก
ธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทคือการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่กฟผ. รวมถึงการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ น้ำเพื่อการอุตสาหกรรม (Processed Water) และน้ำเย็น (chilled water) ให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมใกล้เคียง และเขตประกอบการอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
ปัจจุบันบริษัทและบริษัทย่อยมีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 3,188 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตไอน้ำทั้งสิ้น 1,206 ตันต่อชั่วโมง กำลังผลิตน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม 5,482 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และ กำลังการผลิตน้ำเย็น 3,400 ตันความเย็น การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้านับเป็นธุรกิจหลักที่สำคัญที่สุดของบริษัทและบริษัทย่อย โดยมีรายได้คิดเป็นร้อยละ 84.0 ของรายได้รวมของบริษัทส่วนการผลิตและจำหน่ายไอน้ำคิดเป็นร้อยละ 12.1 ของรายได้รวมของบริษัท ปัจจุบันบริษัทเป็นเจ้าของและดำเนินการในฐานการผลิตหลักจำนวน 8 แห่ง